กลยุทธ์ระดับโลกในการกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดสิ้นไป
โครงการที่ดำเนินเกี่ยวกับการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนทั่วโลก |
เรื่องของการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน ได้ถูกให้ความสำคัญในระดับโลกเป็นครั้งแรก ในการประชุมสุดยอดโลกเพื่อเด็กในปี พ.ศ.2533 ที่นิวยอร์ก โดยผู้นำรัฐ 71 แห่ง ได้อนุมัติแผนดำเนินการเพื่อส่งเสริมสวัสดิการของเด็ก ที่ประชุมตกลงยอมรับใน 7 เป้าหมายหลัก และ 26 เป้าหมายสนับสนุน ซึ่งมี 3 ข้อเกี่ยวข้องกับการขาดสารอาหาร หนึ่งในนั้นเจาะจงที่การกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดไปจากโลกของเรา ตามการประชุมสุดยอดครั้งนั้น เป้าหมายเหล่านี้ได้กลายมาเป็นพันธกิจสำหรับสหประชาชาติ นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการพัฒนา ได้ถือเอาการที่มีเกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า (USI) เป็นเครื่องมือหลักในการกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนทั่วโลก ซึ่งในปีพ.ศ.2543ยังไม่ประสบความสำเร็จ |
|
อย่างไรก็ดี
เป้าหมายสำหรับการกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนได้ถูกรับรองอีกครั้งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาในการประชุมวาระพิเศษเรื่องเด็กของสหประชาชาติ
(UNGASS) ซึ่งเป็นที่ตกลงกันว่า จะต้องพยายามทุกวิถีทาง เพื่อที่จะกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดไปจากโลกภายในปี
พ.ศ.2548 เป้าหมายของการกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดสิ้นไป เป็นข้อบังคับของทุกประเทศ
โดยจะต้องมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลให้ความสำคัญต่องานนี้อย่างจริงจัง
โชคไม่ดีที่ความพยายามในการกำจัดสารไอโอดีนให้หมดสิ้นไปของทั่วโลกนั้น มักถูกให้ความสำคัญลดน้อยลงไป
เมื่อพบเหมือนว่าปัญหาโรคขาดสารไอโอดีนสามารถควบคุมได้ |
การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ของผู้นำนานาชาติและผู้เชี่ยวชาญที่จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2546 เพื่อที่จะสร้างกลยุทธ์ในการกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดสิ้นไปอย่างยั่งยืนทั่วโลก ครั้งนี้จัดเป็นการประชุมเกี่ยวกับโรคขาดสารไอโอดีนครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดเพื่อเด็กในปี พ.ศ.2533 การประชุมที่ปักกิ่งเพื่อเร่งรัดความพยายามที่จะให้บรรลุเป้าหมายการขจัดโรคขาดสารไอโอดีนภายในปี 2548 ที่กำหนดโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ |
|
เป็นสิ่งสำคัญที่มาตรการระดับชาติควรได้รับการปรับปรุงให้เข้มแข็ง ถ้าจะให้บรรลุเป้าหมายการกำจัดการขาดสารไอโอดีน ในปี 2548 |
เกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า (Universal Salt Iodization) จัดเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืน และได้ผลในระยะยาว สำหรับการแก้ปัญหาโรคขาดสารไอโอดีน การบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนอย่างเพียงพอในแต่ละวัน จะป้องกันผลทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นจากการขาดสารไอโอดีน | |
เพื่อให้เป้าหมายนี้ประสบความสำเร็จ เกลือบริโภคทั้งในคนและการปศุสัตว์จะต้องมีการเสริมไอโอดีน ในปี พ.ศ.2545 กว่า 170 ประเทศทั่วโลกได้สัญญาว่าจะให้มีเกลือเสริมไอโอดีนอย่างทั่วถึง 2 ใน 3 ของประชากรโลก ในขณะนี้สามารถเข้าถึงเกลือเสริมไอโอดีน ซึ่งเป็นผลจากการจัดตั้งหน่วยงานที่ประสานความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงผู้ผลิตเกลือและโรงงานอุตสาหกรรมอาหารในแต่ละประเทศ เพื่อกำจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดสิ้นไป ความสำเร็จของโครงการ เกิดจากความร่วมมือของภาคีเครือข่าย ระหว่างรัฐบาล หน่วยงานบริการด้านสุขภาพ ผู้ผลิต และผู้กระจายเกลือ ครู อาจารย์ สื่อ ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ |