![](../template/template/lesson4/4.3.gif)
![](../template/template/lesson4/ds.gif)
วิตามินดีหรือแคลซิเฟอรอล
(calciferol) เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สร้างได้ที่ผิวหนัง โดยเกิดจาก7
ดีไฮโดรคอเลสเทอรอลทำปฏิกิริยากับแสงแดดแล้วเปลี่ยนเป็นวิตามินดี
3 เมื่อสร้างขึ้นหรือดูดซึมจากลำไส้จะถูกสะสมในตับ และเปลี่ยนเป็น
25 ไดไฮดรอกซิ โคลแคลซิเฟอรอล
(25 dihydroxycholecalciferal : 25-OHD 3) และสารนี้จะถูกเปลี่ยนที่ไตเป็น
1,25 ไดไฮดรอกซิ
โคลแคลซิเฟอรอล
(1,25 dihydroxycholecalciferol :1,25 (OH) 2 D 3)
ซึ่งเป็นตัวที่มีผลทางสรีรวิทยา ควบคุมการสร้างโดยพาราฮอร์โมน
แคลเซียม และฟอสเฟต การได้รับแสงแดดอยู่เสมอไม่จำเป็นต้องได้รับวิตามินดีจากอาหาร
นอกจากคนที่ต้องการได้รับแคลเซียมมากกว่าปกติ เช่น ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือที่ให้นมบุตร
เป็นต้น
![](../image/vitamin_d.jpg)
วิตามินดีมีผลต่อการสร้างของกระดูก
ดังนั้นก่อนที่จะศึกษาหน้าที่ของวิตามินดี เรามารู้จักกระดูกกันก่อน
โครงสร้างของกระดูก
กระดูกเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
(connective tissue) ที่เป็นคลอลาเจนและมี แคลเซียมและฟอสเฟตเ
ป็น ส่วนประกอบ มีสูตรโครงสร้างทั่วไปคือ Ca10(PO4)6(OH)2
จะมีการสร้าง และการทำลายอยู่ตลอดเวลา
ชนิดของกระดูกประกอบด้วย
![](../image/bone.jpg)
![](../template/template/lesson1/bone.gif)
สันกระดูก (compact
หรือ cortical bone) เป็นส่วนประกอบประมาณ 80 เปอร์เซนต์ของกระดูก
ทั้งหมด อยู่ด้านนอก เป็นส่วนที่มีโครงสร้างแข็งแรง มีลักษณะ
แน่น การเจริญของกระดูกนี้ขึ้นอยู่กับ แรงที่กดด้วย ถ้ามีแรงกดมาก
ความหนาของกระดูก ก็จะเพิ่มตามไปด้วย
แกนกระดูก
( tabecular หรือ spongy bone) เป็นส่วนประกอบประมาณ 20
เปอร์เซนต์ของกระดูกทั้งหมด อยู่ด้านในของสันกระดูก เป็นส่วนที่มีลักษณะมีโพรงคล้ายฟองน้ำ
มีรูพรุนจะเป็นโครงตาข่าย สานเป็นร่างแหไปมา
ระหว่างการเจริญเติบโต
ด้านปลายของกระดูกที่เรียกว่าเอพิไฟซิส (epiphyses)
จะไม่ติดกับสันกระดูก จะมีแผ่นที่เรียกว่าเอพิไฟเซียล
เฟลท (epiphyseal plate) คั่นอยู่ ซึ่งแผ่นนี้จะมีการเจริญแบ่งเซลล์อยู่ตลอดเวลา
ถ้าแผ่นนี้กว้างก็แสดงว่ากระดูกนี้จะยาวได้มากขึ้น ถ้าแผ่นนี้ปิด
กระดูกนั้นจะหยุดการเจริญยาวออก
เซลล์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างกระดูกเรียกว่าออสทีโอบลาส(osteoblasts)
และเซลล์ที่ทำลายกระดูก เรียกว่าออสทีโอคลาส(osteoclasts)
การดูดซึมของแคลเซียมและฟอสเฟต จากลำไส้ และจากการร่วมทำงานของวิตามินดี
ทำให้มีการเพิ่มเซลล์ออสทีโอบสาส มีการสร้างกระดูกมากยิ่งขึ้น
![](../template/template/lesson3/ir.gif)
ผลต่อกระดูก
1,25 (OH) 2D 3 มีผลกระตุ้นการสร้างกระดูก และการเกาะของแร่ธาตุ
(mineralization) ที่กระดูก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ร่วมกับพาราไทรอยด์
ฮอร์โมน ในการกระตุ้นการดูดซึมแคลเซียม โดย
ผลต่อลำไส้
ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้เล็ก ทำให้แคลเซียมในพลาสมาสูงขึ้น
ผลต่อไต
กระตุ้นการดูดกลับทั้งแคลเซียม
และฟอสเฟตที่ท่อไตส่วนต้น
![](../template/template/lesson4/da.gif)
ผู้ที่ขาดวิตามินดี
มักเป็นผู้ที่อยู่แต่ในบ้าน คนที่ป่วยไข้ต้องนอนอยู่ตลอดเวลา
ผู้ที่มีปัญหาในการดูดซึมไขมัน เช่นผู้ที่เป็นโรคตับ ตับอ่อน
และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบท่อน้ำดี
ถ้าความเข้มข้นของแคลเซียมในกระแสเลือดลดน้อยลง
จะมีผลให้การทำงานของกระแสประสาทผิดปกติ ทำให้กล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่หลอดลมเกิดการหดตัวแล้วไม่คลาย
ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ แต่ถ้ามีแคลเซียมในกระแสเลือดมากเกินไป
จะกดการทำงานของกระแสประสาททำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง การทำงานของรีเฟร็กซ์หายไป
ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตเช่นกัน
นอกจากนี้ภาวะขาดวิตามินดี
จะมีผลต่อร่างกาย ดังนี้
-
โรคกระดูกอ่อน (rickets) พบในเด็กทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกและฟันผิดปกติหรือหยุดชะงัก
-
โรคกระดูกผุ (osteomalacia) เป็นกระดูกผุที่พบในผู้ใหญ่
ทำให้กระดูกหักง่าย เนื่องจาก ขาดแคลเซี่ยม และฟอสเฟต ที่เป็นส่วนประกอบของกระดูก
มองจากภายนอกจะไม่เห็นอาการชัด
ภาวะวิตามินดีเป็นพิษ
(vitamin D intoxication) คือการที่ระดับแคลเซียม และฟอสเฟตในพลาสมา
สูงเกินไป มีแคลเซียมไปจับที่เนื้อเยื่อต่างๆจะทำให้มีอาการกระสับกระส่าย
น้ำหนักลด
|